Speaker Simulator คืออะไร สำคัญอย่างไร

Speaker Simulator หรือเรียกกันง่ายๆว่า Cab sim มีหน้าที่จำลองการทำงานของดอกลำโพง Cabinet อาจจะรวมถึง Power Amp, Microphone ด้วย เพิอส่งสัญญาณเสียงต่อไปยัง Mixer เพื่อออกลำโพง PA ในกรณีที่เราเล่นสด หรือเข้า Audio Interface ในกรณีที่เราอัดเสียง ทำเพลง แล้วทำไมต้องมี Cab Sim / มันสำคัญยังไง ??

ภาพจาก Cr.Musician’s friend https://bit.ly/2GRJ3ng

ก่อนอื่นมาดูระบบการทำงานของเสียงกีตาร์ที่เราได้ยินเวลาคนเล่นบนเวที หรือที่อัดออกมาเป็นเพลง ว่ามีส่วนประกอบยังไงบ้าง

กีตาร์จะผ่านเอฟเฟค แล้วมาเข้าที่แอมป์ โดยที่แอมป์จะมีภาคการทำงานของ Preamp / Poweramp / Speaker หลังจากนั้นจะใช้ Microphone จับเสียงจากตู้แอมป์นั้นๆเพื่อไปเข้า Mixer แล้วออก PA กรณ๊เล่นสด หรือเข้า Audio Interface ในกรณีอัดเสียง

จะเห็นว่า มีองค์ประกอบหลายอย่างมาก กว่าจะออกมาเป็นเสียงที่เราได้ยิน ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้ จะมีปัจจัยต่างๆที่ส่งผลต่อเสียง และหลายๆปัจจัยก็อาจจะควบคุมให้ดีได้ยากในหลายสถานการณ์

Power Amp – คุณภาพของหลอด อายุของหลอด รวมถึงแอมป์บางรุ่น ต้องเปิดเสียงดังมากๆ เพื่อให้ได้เสียงที่ดี ซึ่งอาจจะดังเกินไปสำหรับ การอัดเสียงในห้องอัดเล็กๆ Home Studio หรือ เวลาเล่นสด การเปิดเสียงหน้าตู้ที่ดังมากๆ อาจจะล้นออกมาปนกับ PA ทำให้เสียงที่ออกมาเอาไปมิกซ์ลำบากอีก

Speaker – ดอกลำโพง แต่ละรุ่น ยี่ห้อก็จะให้เสียงที่ต่างกัน บางทีเราอาจจะอยากได้เสียงคลีนกับ ดอกแบบนึง อยากได้เสียงแตก กับดอกอีกแบบนึง โดยจำนวนดอก 1×12 , 2×12 , 4×12 ก็ให้เสียงที่ต่างกัน แต่การจะให้ได้เสียงทุกแบบ อาจจะลำบากในการแบก Cabinet หลายๆตัวไปพร้อมกันในเวทีเดียวกัน หรือในห้องอัด

Microphone – ทำหน้าที่รับเสียงจากหน้าตู้แอมป์ โดยยี่ห้อของไมค์ รุ่นของไมค์ แต่ละตัว ก็ให้เสียงที่ต่างกัน รวมถึงระยะการวางไมค์ ใกล้ไกล องศาของไมค์ ตำแหน่งที่จ่อดอกลำโพง ทุกสิ่งให้เสียงที่แตกต่างกันหมด

จะเห็นว่าหลายส่วนประกอบ ที่ส่งผลกับเสียงที่เราต้องการนั้น มีความยุ่งยากอย่างมาก การจะได้เสียงที่ดี รวมถึงเสียงให้เหมือนเดิม ในทุกๆที่ที่เราไปเล่น หรืออัดเสียงนั้น เป็นเรื่องยากมาก ทำได้ แต่อาจจะใช้เวลา ความยุ่งยาก จะดีแค่ไหนหากมีตัวนึง ที่สามารถมาจัดการปัญหาทุกอย่างเหล่านี้ได้ง่ายๆแต่เปิดเครื่องก็เสียงดีเลย ไม่ต้องใช้เวลากับมันมาก ??

Speaker Simulator จึงเกิดขึ้นมาเพื่อช่วยในปัญหาเหล่านี้ โดยพื้นฐานของมันคือ การจำลอง Power Amp / Cabinet / Mic เพื่อลดขั้นตอนในการทำให้เสียงดี เพราะฉะนั้นเราจึงควรต่อมันหลังจากเอฟเฟค Preamp เพื่อให้ระบบมันครบ ถ้าเราไม่มี Peamp การต่อ Speaker Sim ก็ไม่ครบ เสียงที่ได้ก็อาจจะไม่ดี แต่ Speaker Sim บางตัว อาจจะมีการจำลอง Preamp เข้ามาด้วยเลยก็จะครบระบบเลย ( เช่น Radial JDX Direct Drive, Strymon Iridium )

Speaker Simulator ในปัจจุบัน มีหลากหลาย ทั้งแบบปรับได้ลึกมาก เลือก Preamp,ตั้งแต่เลือก Cabinet, เลือก Power Amp, เลือก Mic, ปรับระยะไมค์, ปรับตำแหน่งไมค์, ปรับ EQ หรือบางตัว อาจจะไม่ต้องปรับอะไรได้มาก เหมือนเซ็ตมาให้แล้ว ทีนี้หลักสำคัญที่สุดในการเลือก Speaker Sim ขั้นแรกคือ ต้องรู้ก่อนว่า ตัวที่เราจะใช้นั้น มันมี Preamp Sim ในตัวหรือไม่ ถ้าไม่มี เราควรหา Preamp Sim สักตัวมาวางไว้ข้างหน้า