วิธีการเลือกไม้กลอง

หลายๆ คนอาจจะเลือกซื้อไม้กลองไม่ถูก โดยเฉพาะผู้เริ่มต้น ฝึกตีกลองชุด อาจสงสัยว่า ไม้กลองเลือกซื้อยังไง หรือ วิธีการเลือกไม้กลอง บทความนี้จะพาทุกท่านมาชมว่า ไม้กลองแตกต่างกันอย่างไร

หลายครั้งที่เราไปร้านเครื่องดนตรี แล้วรู้สึกสงสัยกับไม้กลองหลากหลายแบบว่ามันมีความแตกต่างในการใช้งานยังไงไม่ว่าจะเป็นประเภทวัสดุของไม้ที่นำมาทำไม้กลองที่เราใช้ตีหรือในเรื่องของขนาดไม้กลอง ลักษณะของหัวไม้กลองที่มีความหลากหลายแบบ วันนี้ CT Music Shop จะมาพูดถึงในส่วนของไม้กลองที่ได้กล่าวไปข้างต้นให้เป็นความรู้เพื่อให้เพื่อนๆ พี่น้องมือกลองได้นำไปเป็นแนวทางเวลาที่จะเลือกซื้อไม้กลองให้นำไปใช้งานให้เหมาะกับจุดประสงค์หรือความถนัดของเพื่อนๆครับ

หรือเข้ามาพูดคุยกับ CT Music Shop ได้ที่นี่ ให้คำปรึกษาฟรีได้ทุกเรื่อง !!

หรือเข้ามาเยี่ยมชมสินค้าในเว็บไซต์ของเราได้โดยการ “คลิ๊ก” ที่ข้อความนี้ครับ

    เราจะมาเริ่มกันที่เพื่อนๆรู้ไหมว่าไม้กลองนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่มีผลต่อเสียงกลองในเวลาที่เราตีกับกลองหรือฉาบในแต่ละใบและที่สำคัญไม้กลองนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งที่ยังมีผลในการแสดงศักยภาพของผู้เล่นได้ด้วยมาดูกันครับว่าองค์ประกอบของไม้กลอง1คู่นั้นประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

ไม้กลองทำจากอะไร ?

  ไม้ที่นำมาทำไม้กลองมีหลากหลายประเภทและหลากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความหนาแน่นของไม้ซึ่งมีผลต่อโทนความกระชับของเสียงในการตีกลองซึ่งก็จะมีไม้ที่นำมาใช้ได้แก่ 

  1. ไม้ Hickory

เป็นไม้ที่นิยมนำมาใช้ทำไม้กลองในไม้ระดับราคากลางและราคาสูงแล้วแต่เกรดไม้ Hickory  มีข้อดีคือความยืดหยุ่น และมีความต้านทานต่อแรงกระทบในการได้ตีสูง

  • 2.ไม้ Maple

เป็นไม้ที่มีน้ำหนักเบากว่าไม้อื่น แต่ในบ้านเราไม่นิยมใช้กันเท่าไหร่แต่อาจมีบ้างในหมู่คนที่ตีเบาเพราะไม้มีน้ำหนักเบาไม่เน้นโทนเสียงจากกลองมากนัก

3.ไม้ Oak

เป็นไม้ที่มีความหนาแน่นสูงและมีน้ำหนักมากกว่าไม้อื่น มีการส่งผ่านแรงสะเทือนมาที่มือเรามากกว่า ไม้ Oak มีความแข็งแรงทนทานสูง และด้วยน้ำหนักไม้ที่หนัก จึงทำให้โทนของเสียงกลองที่มีพลังมาก

4.Carbon Fiber

วัสดุชนิดนี้มีน้ำหนักที่เบาและให้ความทนทานแข็งแรงสูง ในส่วนของโทนก็จะมีความพุ่งคมชัด เหมาะกับผู้ตีกลองชุดแนวเพลงร็อคเป็นอย่างมาก

ไม้กลองมีขนาดอะไรบ้าง

การแบ่งประเภทของไม้กลองโดยทั่วไปจะแบ่งโดยใช้ขนาดและน้ำหนักเป็นหลัก โดยขนาดของไม้กลองจะถูกกำหนดเป็นตัวเลข 2, 7 และ 5 ซึ่งเลขน้อยหมายความว่าเป็นไม้ขนาดใหญ่ ในขณะที่น้ำหนักจะถูกแบ่งตามตัวอักษร (ภาษาอังกฤษ) ดังต่อไปนี้

* S คือ ไม้กลองที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และมีน้ำหนักมากที่สุด โดยตัว S ย่อมาจากคำว่า Street เหมาะสำหรับใช้ในการเล่นกลองในวงโยธวาทิตเนื่องจากต้องใช้ความแรงในการตี

* B คือ ไม้กลองขนาดมาตรฐาน โดยตัว B ย่อมาจาก Band หรือวงดนตรี ไม้กลองขนาดนี้จึงเหมาะที่จะใช้ในการเล่นกลองชุดในวงดนตรี และเป็นไม้ที่เหมาะกับผู้ที่เริ่มเล่นกลองชุดอีกด้วย

สั่งซื้อหรือสอบถามราบละเอียดสินค้าเพิ่มเติมที่ CT Music Shop ยินดีให้คำปรึกษาฟรี !!
ซื้อที่นี่ส่งไวสุด สต๊อกแน่น ได้ในวันเดียวกัน

* A คือ ไม้กลองที่มีขนาดเล็กที่สุด มีเส้นรอบวงเล็กที่สุด และมีน้ำหนักเบาที่สุด เป็นที่นิยมในหมู่มือกลองแนวแจ๊สเนื่องจากความเล็ก กะทัดรัด เหมาะสำหรับการเล่นที่รวดเร็ว ว่องไว และเบา

ประเภทของหัวไม้กลอง

เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกไม้กลอง คือ ลักษณะของ หัวไม้กลอง โดยหัวไม้กลองก็จะมีแบบไหนที่คู่ควรกับเรา ไปดูกันเลย Go Go

Tear drop (เทียร์ดรอป)

  • มีลักษณะหัวไม้แหลมบริเวณปลายหัวไม้
  • โทนจะให้เสียงกลางๆ 
  •  เหมาะกับเพลงทั่วไป เช่น ป๊อบ , ร็อค

Oval (โอวอล)

  • มีลักษณะหัวไม้จะหม่นกว่าตัว Tear drop
  • โทนเสียงออกกลางๆ
  • เหมาะกับเพลงทั่วไป เช่น ป๊อบ , ร็อค

Ball (บอล)

  • ลักษณะหัวไม้จะกลมดิ๊กตามชื่อเรียก
  • เหมาะกับคนที่ต้องการ ให้เสียงที่เบามากๆ การรัวละเอียดสุดๆ
  • เหมาะกับการเล่นกับวงออเคสตร้า , แนวแจ๊ส

Acorn (เอคอน)

  • ลักษณะคล้ายกับหัวลูกธนู
  • ให้เสียงค่อนข้างกระแทก

Bariel (บาเรล)

  • ลักษณะจะเหลี่ยมๆเหมือนถัง
  • ให้เสียงที่เต็ม มีพาวเวอร์หนักๆ
  • เหมาะกับเพลงชาวร็อค

Nilon (ไนลอน)

  • ลักษณะจะเป็นหัวพลาสติกสีขาวๆ
  • เล่นกับฉาบเสียงจะใสมาก ละเอียดยิบ ตีฉาบแล้วเสียงเคลียร์เป็นเม็ดๆ
  • เหมาะกับสไตล์ Heavy Metal หรือ ร็อค

สรุป ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่เราบอกเพื่อนๆถึงองค์ประกอบต่างๆของไม้กลองมันอาจจะไม่ได้บ่งบอกว่าลักษณะไม้กลองที่มี Spec ตรงกับแนวทางการเล่นของเพื่อนๆเสมอไปเพราะมีหลากหลายคนที่เลือกใช้อุปกรณ์ที่เรารู้สึกชอบรู้สึกถนัดซึ่งมันเป็นความต้องการส่วนตัวและเป็นเรื่องปกติครับหรือให้เข้าใจง่ายๆว่าดนตรีไม่มีผิดมีถูกครับ^^  แต่การได้ทดลองและศึกษาอุปกรณ์เครื่องดนตรีที่เราเล่นไม่ว่าจะเป็นเครื่องดนตรีชิ้นไหน สิ่งสำคัญกว่าการเลือกใช้อุปกรณ์คือการได้เรียนรู้ที่มีความหลากหลายซึ่งผู้เขียนคิดว่ามันคือหนึ่งประสบการณ์ที่ดีอาจมีโอกาสได้ใช้ไม่ช้าก็เร็วแน่นอนครับ

สั่งซื้อหรือสอบถามราบละเอียดสินค้าเพิ่มเติมที่ CT Music Shop ยินดีให้คำปรึกษาฟรี !!
ซื้อที่นี่ส่งไวสุด สต๊อกแน่น ได้ในวันเดียวกัน

webmaster

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *